วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตัวละครฝ่ายไทย

       สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 


      หรือพระองค์ดำ พระมหาธรรมราชาเป็นพระบรมชนกนาถ มี พระนามว่า สมเด็จพระนเรศวร หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๒ กษัตริย์องค์ที่ ๑๘ แห่งกรุงศรีอยุธยา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เก่งกล้าสามารถ เป็นผู้ประกาศเอกราชหลังจากที่เสียไปให้กับพม่าถึง ๑๕ ปี รวมทั้งขยายราชอาณาจักรให้กว้างใหญ่ ทำสงครามกับพม่า จนพม่าหวาดกลัวไม่กล้ามารบกับไทยอีกเลยเป็นเวลาร้อยกว่าปี ทรงเสด็จสวรรคตในขณะที่เสด็จไปทำศึกกับกรุงอังวะ แต่เกิดประชวรเป็นระลอกที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษ ประชวรได้ ๓ วัน จึงเสด็จสวรรคต วันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๑๔๘ พระชนมายุได้ ๕๐ พรรษา ครองราชย์ได้ ๑๕  

     สมเด็จพระเอกาทศรถ 
 


    หรือ พระองค์ขาว อนุชาของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ทรงดำรงตำแหน่งอุปราช ครองเมืองพิษณุโลก แต่มีเกียรติยศเสมอพระเจ้าแผ่นดิน ตลอดรัชกาลสมเด็จพระนเรศวร ทรงออกศึกทำสงครามร่วมกับสมเด็จพระนเรศวรตลอด และทรงครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระนเรศวร พระนามว่าสมเด็จพระเอกาทศรถ หรือสมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๓ มีพระราชโอรสที่ประสูติจากพระอัครมเหสี สององค์คือ เจ้าฟ้าสุทัศน์ และเจ้าฟ้าศรีเสาวภาค และมีพระราชโอรสที่ประสูติจากพระสนม อีกสามองค์คือ พระอินทรราชา พระศรีศิลป์ และพระองค์ทอง สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จสวรรคตเมื่อปี พ.ศ.๒๑๕๓ พระชนม์พรรษาได้ ๕๐ พรรษาเศษ ครองราชย์ได้ห้าปี

     พระมหาธรรมราชา
    สมเด็จ พระมหาธรรมราชาหรืออีกพระนามหนึ่งว่า สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๑ เสด็จพระราชสมภพ เมื่อปี พ.ศ.๒๐๕๘ พระราชบิดาเป็นเชื้อสายราชวงศ์พระร่วง แห่งกรุงสุโขทัย พระราชมารดาเป็นพระญาติฝ่ายพระราชชนนี สมเด็จพระไชยราชาธิราช แห่งราชวงศ์สุวรรณภูมิ พระองค์ทรงรับราชการเป็นที่ขุนพิเรนทรเทพ เจ้ากรมตำรวจรักษาพระองค์ หลังจากที่เหตุการณ์วุ่นวายในราชสำนักยุติลง และพระเฑียรราชาได้ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๐๙๑ แล้วขุนพิเรนทรเทพ ได้รับสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระมหาธรรมราชา แล้วได้รับโปรดเกล้าให้ไปครองเมืองพิษณุโลก สำเร็จราชการหัวเมืองฝ่ายเหนือ มีศักดิ์เทียบเท่าพระมหาอุปราช ได้รับพระราชทานพระวิสุทธิกษัตรี พระราชธิดาในสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์เป็นพระอัครมเหสี ต่อมามีพระราชโอรสและพระราชธิดาสามพระองค์คือ พระสุพรรณเทวี สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ

     สมเด็จพระวันรัต
    เดิม ชื่อพระมหาเถรคันฉ่อง พระชาวมอญ จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าแก้ว หรือวัดใหญ่ชัยมงคลในปัจจุบัน มีบทบาทครั้งสำคัญ คือ ในคราวที่สมเด็จพระนเรศวรประกาศอิสรภาพ ท่านเป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้พระยาเกียรติ์ และพระยารามที่พระเจ้าหงสาวดีส่งมาให้ลอบกำจัดพระนเรศวร พระมหาเถรคันฉ่องทราบก่อน จึงนำความกราบทูลพระนเรศวร และเกลี้ยกล่อมให้ พระยาเกียรติ์ และพระยาราม รับสารภาพและเข้าร่วมกับพระนเรศวร
วีรกรรมอีกครั้งหนึ่งของท่านคือ การขอพระราชทานอภัยโทษ บรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามเสด็จสมเด็จพระนเรศวรไม่ทัน ต้องโทษประหารชีวิต สมเด็จพระวันรัตได้ขอบิณฑบาต พระราชทานอภัยโทษบรรดาแม่ทัพนายกองทั้งหลาย

     พระยาศรีไสยณรงค์
    แม่ ทัพกองหน้าที่สมเด็จพระนเรศวรตั้งขึ้น มีกำลังพล ๕ หมื่น ยกไปตั้งที่หนองสาหร่าย แต่ไม่สามารถต้านทานทัพพม่าที่มีกำลังถึง ๕ แสนได้ สมเด็จพระนเรศวรจึงมีโองการให้ถอยทัพเพื่อจะตีโอบล้อมจนได้รับชัยชนะในที่ สุด หลังจากนั้นพระยาศรีไสยณรงค์ได้ตามทัพพระยาจักรียกทัพไปตีเมืองตะนาวศรี และมริด เพื่อเป็นการไถ่โทษ

     พระราชฤทธานนท์
    ปลัดทัพหน้า ที่สมเด็จพระนเรศวรแต่งตั้งให้ไปรบเป็นเพื่อนกับพระยาศรีไสยณรงค์

     เจ้าพระยาจักรี     รับ ผิดชอบด้านการพลเรือน และดูแลหัวเมืองทางภาคกลางและภาคเหนือ ถูกอาญาประหารชีวิตในคราวที่สมเด็จพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา แต่พระวันรัตมาขอพระราชทานอภัยโทษ สมเด็จพระนเรศวรพระราชทานอภัยโทษ แล้วรับสั่งให้นำทัพ ๕ หมื่นคน ไปตีเมืองตะนาวศรี และมริด เป็นการไถ่โทษ

     เจ้าพระยาคลัง รับ ผิดชอบด้านการต่างประเทศ ถูกอาญาประหารชีวิตเช่นเดียวกับเจ้าพระยาคลัง แต่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ แล้วรับสั่งให้นำทัพ ๕ หมื่นคน ไปตีทวาย เป็นการไถ่โทษ

       เจ้ารามราฆพ กลางช้างของพระ นเรศวร หนึ่งในสี่ทหารที่ตามเสด็จทันในการทำยุทธหัตถี และไม่โดนอาญาประหารชีวิต แถมยังได้รับการปูนบำเหน็จจากสมเด็จพระนเรศวร เพื่อตอบแทนความกล้าหาญ

 
     ขุนศรีคชคง ควาญ ช้างของพระเอกาทศรถ แถมยังได้รับการปูนบำเหน็จจากสมเด็จพระนเรศวร เพื่อตอบแทนความกล้าหาญ หนึ่งในสี่ทหารที่ตามเสด็จทันในการทำยุทธหัตถี

      นายมหานุภาพ ควาญช้างของสมเด็จพระ นเรศวร ถูกทหารพม่ายิงเสียชีวิตในช่วงที่กระทำยุทธหัตถี และได้รับพระราชทานยศและทรัพย์สิ่งของ ผ้าสำรดแก่บุตรภรรยา เป็นการตอบแทนความชอบ

     หมื่นภักดีศวร กลาง ช้างของสมเด็จพระเอกาทศรถ ถูกทหารพม่ายิงปืนถูกอกเสียชีวิตในช่วงที่กระทำยุทธหัตถี พระราชทานยศและทรัพย์สิ่งของ ผ้าสำรดแก่บุตรภรรยา เป็นการตอบแทนความชอบ

     หมื่นทิพย์เสนา นายทหารที่ สมเด็จพระนเรศวรสั่งให้ไปดูทัพหน้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง และนำตัวหมื่นคนหนึ่งกลับมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระนเรศวร เพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทัพหน้า และเป็นผู้ส่งข่าวให้ทัพหน้าถอยทัพหลังจากถูกพม่าตีอย่างหนัก

     หมื่นราชามาตย์ นายทหารที่เดินทางไปพร้อมกับหมื่นทิพย์เสนาเพื่อแจ้งข่าวให้ทัพหน้าถอยทัพ  คาดว่าจะเป็นนายทหารที่หมื่นทิพย์เสนานำมาเข้าเฝ้าสมเด็จพระนเรศวร   

     หลวงญาณโยคโลกทีป โหรผู้ถวายคำ พยากรณ์และหาฤกษ์ยามกับสงเด็จพระนเรศวร ในคราวที่พระองค์กำลังจะตัดสินพระทัยทำสงคราม โดยพยากรณ์ว่า พระองค์จะได้จตุรงคโชค คือ โชคดี ๔ ประการ ได้แก่ มีโชคดี , วัน เดือน ปี ในการทำสงครามดี , กำลังทหารเข้มแข็งดี , อาหารอุดมสมบูรณ์ดี และเชิญเสด็จเคลื่อนทัพในยามเช้า วันอาทิตย์ขึ้น ๑๑ ค่ำ ย่ำรุ่ง ๘ นาฬิกา ๓๐ นาที ในเดือนยี่ นับเป็นฤกษ์สิริมงคล   

    หลวงมหาวิชัย พราหมณ์ผู้ที่ทำพิธีตัดไม้ข่มนาม ก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรจะยกทัพออกรบ และ  กระทำยุทธหัตถีจนได้รับชัยชนะ   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น